หลักสูตรการให้การปรึกษาเด็กและหญิงตั้งครรภ์ไม่พร้อม
เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2563 ศาลรัฐธรรมนูญได้มีคำวินิจฉัยว่า มาตรา 301 ประมวลกฎหมายอาญา ซึ่งเป็นบทบัญญัติที่กำหนดโทษทางอาญาแก่หญิงที่ทำให้ตนแท้งลูกหรือยินยอมให้ผู้อื่นทำแท้งให้นั้น ขัดต่อรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ในมาตรา 27 และ มาตรา 28 เนื่องจากกระทบต่อสิทธิเสรีภาพในเนื้อตัวร่างกายของหญิงที่ตั้งครรภ์ และวินิจฉัยว่า มาตรา 305 ซึ่งเป็นเหตุยกเว้นความผิดฐานทำแท้ง ไม่ขัดต่อรัฐธรรมนูญแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม ศาลรัฐธรรมนูญได้มีมติเสียงข้างมากให้มีการปรับปรุงแก้ไขทั้งสองมาตราเพื่อให้สอดคล้องกับสภาพการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปในปัจจุบัน และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการปรับแก้ให้แล้วเสร็จภายใน 360 วัน
วันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2564 ได้มีการประกาศ พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 28) พ.ศ. 2564 ลงในราชกิจจานุเบกษา และมีผลบังคับใช้ในวันถัดไป ซึ่งเป็นการแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการยุติการตั้งครรภ์ในประเทศไทยสองมาตรา
หลังจากมีการแก้ไขกฎหมาย ได้มีการพัฒนาบริการ 2 ส่วนด้วยกัน 1.ข้อบังคับแพทยสภา ซึ่งประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2564 และ 2.ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่องหลักเกณฑ์ วิธีการตรวจ และการปรึกษาทางเลือก ซึ่งประกาศฉบับนี้ รองรับ มาตรา 305 (5) ปัจจุบันประกาศฉบับนี้ยังไม่แล้วเสร็จ เบื้องต้นได้กำหนดให้ วิชาชีพสังคมสงเคราะห์ เป็นหนึ่งในวิชาชีพที่ให้การปรึกษาทางเลือกแก่หญิงตั้งครรภ์ไม่พร้อม รวมถึง กำหนดให้ 6 กระทรวง จัดบริการให้กับผู้ที่ตั้งครรภ์ไม่พร้อม ประกอบด้วย กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม และ กระทรวงแรงงาน
สภาวิชาชีพสังคมสงเคราะห์ ได้ตระหนักถึงความจำเป็นในการจัดทำหลักสูตร เพื่อใช้ในการจัดอบรมให้กับนักสังคมสงเคราะห์ที่ทำงานเกี่ยวข้องทั้งของภาครัฐและเอกชน โดยกำหนดความรู้ เนื้อหาสาระที่สำคัญ เช่น กฎหมายที่เกี่ยวข้อง สุขภาวะของเด็ก หญิงและพัฒนาการทุกช่วงวัย ผลกระทบทางด้านร่างกาย จิตใจ สังคม ของเด็ก หญิงและครอบครัว ผลกระทบทางด้านการเรียนและอาชีพ เป็นต้น ตลอดจนการฝึกทักษะ เทคนิค และการให้การปรึกษา ซึ่งจะเป็นการเพิ่มพูนความรู้ ความเข้าใจ และเสริมสร้างสมรรถนะของนักสังคมสงเคราะห์ในการให้บริการ อันจะนำไปสู่การพัฒนาคุณภาพงานสังคมสงเคราะห์ให้มีมาตรฐานในการให้บริการกับเด็กและหญิงที่ตั้งครรภ์ไม่พร้อมให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ตลอดจนส่งเสริมการตั้งครรภ์ต่ออย่างมีคุณภาพ และการยุติการตั้งครรภ์ที่ปลอดภัย และเพื่อให้หญิงตั้งครรภ์ไม่พร้อมได้เข้าถึงสิทธิอนามัยเจริญพันธ์มากขึ้นตามเจตนารมณ์ของกฎหมาย
วัตถุประสงค์
1. เพื่อให้ทราบถึงกฎหมายยุติการตั้งครรภ์ที่เปลี่ยนแปลงไป และกฎหมายอื่นๆที่เกี่ยวข้อง
2. เพื่อให้มีทัศนคติที่ถูกต้องเกี่ยวกับสิทธิทางเลือกในเด็กและหญิงตั้งครรภ์ไม่พร้อม
3. เพื่อให้สามารถใช้กระบวนการทางสังคมสงเคราะห์ ในการให้บริการเด็กและหญิงตั้งครรภ์ไม่พร้อมและครอบครัวได้
4. เพื่อให้มีองค์ความรู้ เทคนิค ทักษะเฉพาะ ในการให้การปรึกษาเด็กและหญิงที่ประสบปัญหาตั้งครรภ์ไม่พร้อมและครอบครัว ทั้งในด้านกาย จิตใจ สังคม และ การแพทย์สาธารณสุข รวมถึงสามารถนำไปปรับใช้ในการให้บริการได้
5. เพื่อให้มีช่องทางส่งต่อบริการในทางเลือกของเด็กและหญิงตั้งครรภ์ไม่พร้อม